Back on Track 2021

กับการทำงานที่ไหนก็ต้องมีแผน และใคร ๆ ก็มักจะบอกว่าแผนทำแล้วก็จะขึ้นหิ้ง คือทำแล้วไม่มีใครเอาไปใช้จริง แต่ไม่มีก็ไม่ได้นะ เหมือนมียันต์ติดไว้อย่างนั้นมั้ง หลายครั้งหงุดหงิดกับเรื่องราวประมาณนี้ ที่กว่าจะทำแผนออกมาไม่ใช่ง่าย แต่กลับดูไม่มีคุณค่าหรือประโยชน์ใดเท่าที่ควร ก็ด้วยมีปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้อยู่มากมาย แล้วทีนี้ในชีวิตส่วนตัวล่ะ เราควบคุมได้เอง ไม่ต้องไปหงุดหงิดกับใคร แล้วทำไมไม่เอามาทำใช้กับตัวเองอย่างจริงจังล่ะ

ว่าแล้วก็ควรเริ่มลงมือวางแผน กำหนดกลยุทธ์ ระบุการวัดผล และติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงทางและละเลยต่อเป้าหมายนั้น

ก็หลังจากชาร์จแบตมาเต็ม พรุ่งนี้ก็เริ่มงานวันแรกของปีแล้ว อันดับแรกคือเขียน timeline ตัวเองในช่วงวันหยุดส่งต้นสังกัด ก็ให้ความร่วมมือกันไป แล้วก็มาลุยทบทวนเป้าหมายปี 2021 กันเลย

อันที่จริงเป้าหมายก็มีวางมีปรับกันเรื่อยมา มีหลายเรื่องที่อยากได้อยากมีมาตลอด แล้วช่วงไหนที่ทำอะไรได้ก็ทำมาก่อนบ้างแล้ว แม้จะกระท่อนกระแท่นก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย รอพร้อมรอฤกษ์รอชัยก็อาจไม่ทันกาล เพียงแต่หากเรามีเวลาได้มานั่งทบทวน และเรากำหนดสิ่งที่ต้องการให้ชัด แล้ววางกลยุทธ์แนวทางที่จะลงมือทำ ระบุการวัดผลให้เป็นรูปธรรม มันก็อาจทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้ง่ายและเร็วขึ้น คือถ้ามีช่วงเวลา monitor เป็นระยะ ๆ เราจะเห็นผลของการ action แบบจริง ๆ ได้แหละ แล้วถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล มาผิดทาง ก็ยังกลับลำปรับแผนปรับวิธีการได้ทันล่ะน่าาา

ฟังดูอาจเป็นการงานเพิ่มขึ้นอีก ดูวิชาการไป แต่เราว่าถ้าทำได้จริงมันก็เป็นผลดีนะ ไม่น่ามีอะไรเสียหาย อันที่จริง ๆ เลย โดยส่วนตัวก็ยังไม่เคยทำเป็นรูปธรรมนักหรอก มีแต่ตั้งเป้า (ซึ่งบ่อยมาก) ปรับแผนปรับวิธีการอยู่ตลอด ๆ ช่วงไหนไม่มีเวลา ยุ่งมากก็ละเลยไป คือตั้งไว้ในหัวแหละ เคยมีเขียนบ้าง แต่แบบไม่วัดผลออกมาให้เป็นรูปธรรมไง บางทีทำ ๆ ไป เราก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่จุดไหนแล้ว มาถูกทางหรือเปล่า เข้าใกล้เป้าหมายหรือยัง อาจจะรู้นะ แต่เราว่าภาพมันค่อนข้างจะลางเลือน ก็ดันทุรังทำ ๆ ไป แบบไร้กระบวนท่าอย่างชาญฉลาดมั้ง บางทีก็อาจทำให้เหนื่อยเปล่ามั้ง กว่าจะรู้ว่ามาผิดทางหรือผิดวิธีการ

ปีนี้สั่งสมุด Back on track planner 2021 จาก Mission to The Moon มา ก็ปกติจะมีซื้อสมุดบันทึกประจำปีไว้อยู่แล้ว สำหรับทำงานการ ปีนี้เห็นของที่นี่ ดูน่าสนใจ ด้วยชื่นชอบคุณรวิศอยู่ก่อน อีกกับแนวคิดที่ต้อง back on track จริง ๆ จัง ๆ สักที ก็สั่งมาแล้ว เล่มค่อนข้างหนาไปนิด จริง ๆ ชอบเล่มกะทัดรัดนิดนึง เวลาพกไปลงพื้นที่ แต่เปิดดูก็เข้าใจได้ด้วยอัดแน่นรายละเอียด planner ไว้แหละ จะมีประสิทธิผลก็ต่อเมื่อเราใช้ทุก part ครบ แต่ในส่วนของ annual goal ที่มีอยู่ 4 หน้า เราคงไม่เขียนเรื่องส่วนตัวลงเล่มนี้ ด้วยจะเอาไว้ใช้กับการทำงานเป็นหลัก เป้าหมายก็จะเป็นงานล้วน ๆ ซึ่งก็จะมีให้เราระบุ mission ทั้งรายสัปดาห์ รายวัน และมีหน้าเปล่าให้จดบันทึกข้อมูลได้มากพอสมควร

สำหรับ goal หรือ objective เรามีอีกเล่มที่สั่งมาของ อ.นภดล (Nopadol’s Story) เป็น “My OKRs Diary” ด้วยอาจารย์มาทางด้านการวัดผล และก็ได้มีโอกาสอ่านเรื่อง OKR ในหนังสือที่อาจารย์เขียนมาหลายเล่ม พอมา diary เล่มที่สั่งมานี้เป็นเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ ให้ระบุ objective และ key result เล่มนี้ก็จะเขียนรวมทั้งงานและส่วนตัว ซึ่งเล่มนี้ก็จะออกแบบมาให้เราสามารถวัดผลตัวเองเป็นรายไตรมาสที่จะสอดคล้องกับเป้าหมายรายปีของเรา คือไม่ได้ตั้งเป้าไว้ลอย ๆ ก็ควรมีผลลัพธ์หลักในแต่ละเป้าด้วย ลองเอามานั่งเขียนดู ดูสิว่าปีนี้จะทำต่อเนื่องได้มั้ย กลัวตัวเองเหมือนกัน เวลากลางปียุ่ง ๆ ก็จะละเลยอัพเดตเรื่องพวกนี้ไป

พอลองเขียนเป้าหมายที่ตัวเองต้องการในปี 2021 ก็ดูจะมากมาย ยิบย่อยหลายเรื่องเลยล่ะ หลายเรื่องก็มีความท้าทายพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องการงานกับสภาพแวดล้อมใหม่ ก็ต้องปรับตัวเรียนรู้กันไป อันที่จริงก็ท้าทายทุกเรื่องแหละนะ เพราะตั้งเป้าในสิ่งที่ตัวเองยังไม่เคยทำได้ สรุปก็เลยต้องขมวดให้เป็นเรื่องหลัก ๆ 3 เรื่องตามแบบฟอร์มก่อน ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องการงาน การพัฒนาตัวเอง และสุขภาพแหละ ซึ่งก็จะมีเรื่องย่อย ๆ อยู่ในนี้ที่จะวัดออกมาให้เห็นความคืบหน้าในแต่ละ week ในแต่ละ quarter ได้

ทั้ง 2 เล่มนี้ function การใช้งานสำหรับเราก็แยกแตกต่างชัดเจน ไม่ทำให้มันซ้ำซ้อน นอกจากที่เพื่อจะกำหนดการวางแผนตั้งเป้าหมายแล้ว จริง ๆ เราก็อยากกลับมาจดบันทึกสิ่งที่ได้ทำในแต่ละวันอย่างจริงจัง แบบจดดี ๆ ตั้งใจจด ไว้มาอ่านทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ให้เห็นพัฒนาการตัวเอง ว่าได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นแค่ไหน เพราะพอเวลาผ่านไป หลายเรื่องก็ลางเลือนไปตามกาลเวลา สำหรับเราทุกอย่างที่เราเป็น ที่มันเกิดขึ้นกับเรา มันมีความหมายนะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้น ๆ และตัวเราในอนาคตก็หลอมรวมมาจากตัวเราในวันนี้นี่ล่ะ concept ก็อาจจะเหมือนกับที่เราเขียนใน blog นี้ล่ะมั้ง เพียงแต่การทำหน้าที่ก็จะต่างกันไปเล็กน้อย ซึ่งเราตั้งใจว่าจะเขียน blog นี้ไปตลอดนะ

เมื่อวางทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ต่อไปก็ต้องลงมือทำอย่างจริงจังนะ และต้องสัญญากับตัวเองว่าระหว่างทางจะไม่มาปรับเป้าให้น้อยลงเด็ดขาด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *