อยู่ๆ ก็ได้มาดูซีรีย์แนวฆาตกรรมหวาดเสียวเรื่องหนึ่ง ค้นหาซีรีย์ Netflix ที่พากษ์ไทยในเพจ “เม้าท์มอยทุกซีรีย์” เพจที่ติดตามมานาน เพราะขี้เกียจมานั่งเฝ้าหน้าจอคอยอ่าน เห็นว่า 6 ตอน จบแบบกระชับ ก็อ่ะตัดสินใจดูเลย แต่โห!! สุดหวาดเสียวจริงๆ เนื้อเรื่องก็เงื่อนงำ แต่สุดท้ายก็สัมพันธ์กันหมด สมกับเป็นซีรีย์เกาหลีที่ไม่ให้คาดเดาได้แต่ต้น
“อุบัติกรรม” แรกๆ แบบไม่กล้าดูภาพเลย ไม่อยากติดตา คิดตลอดว่าไม่เอาไม่ต้องดูหรอก หาเรื่องอื่นดูเหอะ ด้วยเป็นแนวสายดาร์กมาก การหลงผิดของชีวิตคน ที่ดูจะไม่มีอะไรฉุดดึงขึ้นมาได้ มีแต่จมถลำลึก ไม่ต้องพูดถึงจิตสำนึกใดๆ การถูกคุมขังจองจำ ก็ยังไม่ได้ทำให้ดีขึ้น หรือเข็ดหลาบ สะท้อนสภาวะสังคมหลายๆ อย่าง จุดจบจึงต้องเป็นแบบที่เวรกรรมนำไป กรรม คือ ผลของการกระทำ
จะบอกว่าเพราะหนี้สิน การถูกข่มขู่ ทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่มีทางเลือก ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว การวางแผน “ฆ่าพ่อตัวเอง” ยังไงก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ลูกคนหนึ่งจะคิดได้ โดยปราศจากการยั้งคิดได้ขนาดนั้น ในเรื่องไม่มีความลังเลเลยสักนิด วางแผนฆ่าพ่อให้เป็นอุบัติเหตุเพราะหวังเงินประกัน เรื่องราวดำเนินไปแบบกระชากความรู้สึกทางจิตใจคนดูไม่น้อย
แต่อาจเป็นพล็อตเรื่องธรรมดา หากไม่ถูกวางให้ดูซับซ้อนเกี่ยวพันเชื่อมโยง และดูจะคาดเดายาก แต่ฉากที่รถหมอชนบนเขา มีแอบคิดอยู่เหมือนกันว่า ยังไงก็ไม่น่าจะใช่ชนคนปกติ แต่หลายฉากก็ยังแนบเนียน มาเฉลยทีละตอนในฉากหลังๆ ถึงความเกี่ยวพันแต่ละคน สุดท้ายแล้วจุดจบก็ตามชื่อเรื่องเลย “อุบัติกรรม” ที่ได้รับกันถ้วนหน้า
ดูแล้วได้แง่คิดอะไร? แง่คิดของความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องเงินทอง เรื่องความไว้ใจเชื่อใจใคร “ผล” ที่จะเกิดขึ้น ล้วนมี “เหตุ” จากการกระทำของคนเราทั้งนั้น
ดังนั้น ชีวิตที่เรามีอยู่ จึงควรตั้งมั่นอยู่ในความดี แต่ “ความดี” คำนี้ยังนามธรรม แล้วความดีคืออะไรล่ะ?
หากขยายความตามที่เราคิดก็คือ ทำตามหน้าที่ของเราในทุกบทบาทให้ดีที่สุด (อาจต้องทบทวนว่าหน้าที่ของเรามีอะไรบ้าง และดีที่สุดนั้นขอบเขตคือแค่ไหนอย่างไร อันนี้คงต้องคุยกันในอีกเรื่องอีกประเด็นหนึ่ง) ทำความดีที่ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน ไม่เอาเปรียบใคร และต้องไม่ให้ใครมาเอาเปรียบด้วยนะ
Leave a Reply