เป็นอีกหนึ่งคืนที่ไม่หลับไม่นอน ไม่ใช่นอนไม่หลับนะ เรื่องนั้นไม่เคยเป็นปัญหากับเราเลย อาจเป็นความโชคดีมั้ง ที่หัวถึงหมอนก็พร้อมหลับได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่สุขหรือทุกข์ มีแต่ฝืนพยายามสลัดความง่วงตัวเอง ให้ยังไม่หลับ ได้มีเวลาอยู่กับตัวเองไปเรื่อยเปื่อย
อย่างกับวันนี้ แต่ก็ไม่เชิงนักหรอก คืนนี้ไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ดึกเลย ช่วงหลังพยายามจะปรับเวลาชีวิตตัวเองให้อย่างที่ควรจะเป็นคือไม่นอนดึกมากถ้าไม่จำเป็น วันนี้ก็ตั้งใจอย่างนั้นคิดว่าอย่างมากไม่เกิน 5 ทุ่ม แต่นี่ปาไปจะตี 1 ละ เวลาที่เราได้อยู่กับตัวเองผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เป็นวันที่ได้กลับห้องตามเวลาเลิกงาน 17.30 น. เป็นหนึ่งในไม่กี่วันของรอบปี นอกนั้นก็ค่ำบ้างดึกบ้าง วันนี้กลับมาก็ได้ทำอะไรที่อยากทำไปหลายอย่าง กำลังจะนอนอยู่แล้ว ก็ยังเปิดอ่านโน่นนี่นั่น เวลาล่วงเลย ก็ให้นึกถึงอยากเขียนอะไรตามที่รู้สึกตอนนี้สักหน่อย
นึกอยากเขียนก็เขียน ไม่ได้มีหัวข้อหรือธีมเรื่องไว้ก่อน แต่ก็มีหลายบทความนะ เป็นเรื่องที่มีหัวข้อคิดไว้ว่าอยากเขียนแล้วยังไม่ได้เขียนอีกหลายเรื่องเลยล่ะ แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะเขียนเรื่องอะไรเมื่อไหร่ก็ได้นะ ความรู้สึกในตอนที่เขียนต้องได้ด้วย ต้องอินลึกลงไป ถึงจะเขียนถ่ายทอดออกมาได้ตามความรู้สึกในช่วงเวลานั้นจริง ๆ
ก็เลยขี้เกียจจะไปฟิกกับตัวเอง (ปกติเป็นคน fix กับอะไรมากมาย ~ ก็เพิ่งจะรู้ตัวมั้ง) ในเรื่องเขียนบทความ วันไหนนึกอยากเขียนตามอารมณ์ก็เขียน จะมีเนื้อหาสาระหรือไม่ก็ช่าง วันไหนนึกอยากเขียนแบบร้อยเรียงเป็นเรื่องราวที่อยากเล่าก็เขียนก็เล่าไป ก็ต้องคอยเตือนตัวเอง ว่ามันไม่ใช่งานเนอะ ไม่ต้องมีรูปแบบหรือแนวคิดทฤษฎีอะไรที่ตายตัว ให้เป็นพื้นที่ที่เราได้มีอิสระจริง ๆ บ้าง
อันที่จริง วันนี้ก็มีสิ่งจูงใจอื่นที่มากระทบความรู้สึกอยากเขียนด้วยแหละ เลยอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามาบันทึกไว้สักนิด
เคยมั้ย ที่อ่านหรือรับรู้อะไรบางอย่างแล้วน้ำตาไหล (ที่ไม่ใช่เรื่องครอบครัว) ไม่ใช่ครั้งแรก หลายครั้งมาแล้ว แต่เป็นสิ่งเร้าแรกสิ่งเร้าเดียวที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น (เท่าที่เราจำความได้นะ) ซึ่งก็แปลกดี และก็ไม่รู้ว่าที่น้ำตาไหลคืออะไร ก็ไม่ใช่เรื่องเศร้าเรื่องสะเทือนใจที่จะต้องเสียใจอะไรแบบนั้น และมันก็ต่างกับที่เราเคยอ่านข่าวแล้วรู้สึกเห็นอกเห็นใจใครในข่าว เราว่ามันคนละความรู้สึกนะ เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ภายนอกจริง ๆ เราก็เข้มแข็งและเริ่มชาชินกับโลกความเป็นจริงกับหลายเหตุการณ์พอสมควร หรือเพียงแค่เรา sensitive เกินไป ก็ไม่รู้สินะ
หลายครั้งเราคิดหาเหตุผลมากมายแต่ก็ไม่พบคำตอบ ว่าทำไมเราถึงรู้สึกอะไรแปลก ๆ แบบที่ไม่ควรจะเป็นอย่างตอนนี้ ความรู้สึกนั้นคืออะไรเราก็ไม่แน่ใจ เป็นความรู้สึกว่าเข้าใจอย่างนั้นเหรอ เราไม่กล้าจะพูดอย่างนั้นเลย ก็หลายครั้งเราก็ยังไม่เข้าใจตัวเองดีเลย แล้วเราจะกล้าบอกว่าเราเข้าใจความรู้สึกของใครได้ยังไง แล้วมันเรียกว่าอะไรล่ะ มันเหมือนมันคล้ายมากกับความรู้สึกว่าเข้าใจสิ่งที่ใครคนหนึ่งคิดและเป็น
เข้าใจว่ายังไงน่ะเหรอ อืมมม… อธิบายเป็นคำพูดคงลำบาก มันคงเป็นการที่เราไม่ได้เห็นแย้งหรือเห็นต่าง หรือคิดว่าสิ่งที่คนนั้นเป็นแปลกอะไร กลับเห็นด้วยในหลายมุมที่ได้รับรู้มา และหลายเรื่องเราก็คิดและเป็นเหมือนกัน
Leave a Reply