7 ปี

7 ปีที่ผ่านมากับอาชีพนี้ เรียนรู้อะไรมาบ้าง เข้าปีที่ 8 แล้วสิ แล้วหยุดตรงนี้ได้หรือยัง

5 ปีทำงานเต็ม ๆ และมีช่วง 2 ปีไปเรียน รวม 7 ปี
ใน 5 ปีที่ทำงาน อยู่กับ 2 หน่วยงานหลัก (4 หน่วยงานย่อย –> หน่วยงานที่ 4 เพิ่งเริ่มต้น) มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่หลากหลาย หลายเรื่องไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ทำหรือจะทำได้ ก็ได้ผ่านมา ประสบการณ์ที่ได้รับ แม้ช่วงที่ประสบจะคิดว่าหนักหนา แต่ถือเป็นโอกาสที่ดีให้เราได้ฝึกฝน ล้มลุกคลุกคลานบ้างอะไรบ้าง ไหนจะเผชิญกับเสือสิงห์ ทั้งอาบเหงื่อและคราบน้ำตามาไม่น้อยเลย

แล้วเราได้เรียนรู้อะไรกับสิ่งเหล่านั้นบ้างล่ะ พัฒนาเป็นภูมิคุ้มกันและเอาไปไว้ใช้เพื่อก้าวเดินต่อ

อย่า One man show

แม้จะเคยชินกับการไม่ต้องง้อใคร ทำอะไรได้ด้วยตัวเองเสมอ ๆ แต่การทำงานใหญ่ หรืองานเพื่อส่วนรวมแล้ว จำเป็นต้องฝึกการพึ่งพาคนอื่นบ้าง ตามบทบาทหน้าที่ของเขา ซึ่งมันหมายถึงเรามอบความไว้วางใจให้ใครคนนั้น ซื้อใจคนยังเป็นเรื่องสำคัญ (แม้จะซื้อผิดซื้อถูกมาบ้าง) โดยเฉพาะกับคนในทีม และทุกคนต้องการเป็นคนสำคัญ จงให้เขาเหล่านั้นที่ทำงานให้เราหรือทำงานร่วมกับเราเป็นคนสำคัญเสมอ

หักไม่ยอมงอ ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี

การที่คิดว่าตัวเองเป็นคนตรงไปตรงมา พูดความจริง ตัดสินใจจากข้อเท็จจริงเป็นหลัก โดยไม่สนใจใครหน้าไหน ไม่เวิร์คเอามาก ๆ แม้สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่หลายคนยอมรับความจริงบางเรื่องที่แม้จะถูกต้องไม่ได้ พูดง่าย ๆ ก็คืออย่าไปขวางทางใครแบบไม่มีชั้นเชิง แต่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่การโอนอ่อนผ่อนตามไปเสียทุกอย่าง จนไม่คำนึงถึงความถูกต้อง เพียงแต่ต้องไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า ต้องหาวิธีที่แยบยลกว่านั้น

ชีวิตมันก็คือเกม

จริง ๆ ไม่ใช่คนที่ชอบเล่นเกม แต่ที่เปรียบก็ประมาณว่า มันมีความท้าทายที่เป็นระดับที่ต้องไต่ขึ้น ยากขึ้น ๆ ในระหว่างทางอาจมีตัวช่วยเข้ามา พร้อมทั้งอุปสรรคขัดขวาง หากเลือกเดินเกมได้ถูกทาง ก็อาจมีได้รับรางวัลบ้าง หากเดินพลาดอาจตกหลุมพรางของปีศาจร้าย ก็อยู่ที่จะมีสติต่อสู้ด้วยปัญญา แก้เกมได้ทันก่อนจะเกม over ได้หรือไม่ เพราะมันไม่มีหรอกเกมที่เดินทางเรียบอย่างเดียว น่าเบื่อตายเลย ก็ในเมื่อไม่ชอบอะไรที่ดูง่ายจนน่าเบื่อ ก็ต้องอยู่ในเกมอย่างมีสติ ครองสมาธิ เพื่อให้เกิดปัญญาได้ตลอด ๆ นะ

เราเป็นหมากตัวหนึ่งของใครเสมอ

เมื่อเรารู้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา เราจะไม่ตระหนกหรือจิตตกจนเกินไป หากวันหนึ่งผลของเกมไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็นเสมอไป เกมพลิกล็อกก็เห็นเป็นตัวอย่างมามาก ศึกษา case study เยอะ ๆ หน่อยละกัน เผื่อจะได้รู้วิธีรับมือและเตรียมใจ

เราเป็นผู้กำหนด

สิ่งที่เราได้พบได้เจอ จริงอยู่ว่ามีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่เราควบคุมไม่ได้ กำหนดไม่ได้ว่าจะต้องเจอกับอะไร แต่เรากำหนดการรับมือกับปัจจัยเหล่านั้นได้ ทุกสิ่งที่เข้ามาหาเรา ก็กำลังมองประเมินเราอยู่ด้วยแหละ ว่าเราเป็นคู่ชกแบบไหน ทำอะไรกับเราได้บ้าง นี่แหละถึงได้บอกว่าเราเป็นผู้กำหนด เพราะหลายครั้งที่เราเป็นฝ่ายถูกเอาเปรียบบ้าง เหมือนจะถูกรังแกบ้าง ลองมองวิเคราะห์ใหม่ดี ๆ จะรู้ว่าที่เขากล้าทำแบบนั้นกับเรา เพราะเราเองหรือเปล่าที่เปิดโอกาสให้เขาทำได้ ที่ผ่านมาก็เคยเป็นคนแบบไม่รู้เดียงสา ผ่านมาสักระยะ เป็นแบบรู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ผ่านมาอีกสักหน่อย ก็แบบไม่เต็มใจให้หลอกแต่พูดไม่ออกบอกไม่ได้ ผ่านมาถึงวันนี้ ควรต้องรู้ได้แล้วนะว่าจะรับมือแบบไหน (รู้จริงหรือเปล่า?!)

7 ปี โซจูกับเกลือสิ 😊 17.03.21

👉 ในเมื่อวันนี้เลือกที่จะอยู่ในเกมสนามนี้ แม้หลายครั้งที่ไม่พอใจกับกติกาของสนามนี้ เอ… ทำไมกติกาไม่แฟร์เหมือนเกมสนามโน้นเลย เพราะหลายครั้งอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับการทำงานในช่วงชีวิตก่อนเข้าวงการนี้ ด้วยถูกปลูกฝังการทำงานมาอีกแบบหนึ่งเกือบครึ่งชีวิต

แล้วสติก็มา ก็ในเมื่อเลือกมาลงสนามนี้เอง ควรต้องยอมรับในกติกาเขามั้ย อะไรที่ทำได้ปรับได้ว่ากันไป เพราะทุกสนามก็มีทั้งข้อกติกาที่เราถูกใจและไม่ถูกใจเหมือนกัน เลือกส่วนที่ดี มองจุดนั้น มีอะไรที่เราทำได้บ้าง เรียนรู้กับทุกสิ่ง หาความหมายของมันให้เจอ

จะทำงานได้อย่างมีความสุขหรือไม่ก็อยู่ที่เราเป็นผู้กำหนด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *