ยิ่งโหยหา ยิ่งไม่ได้มา

ยิ่งโหยหา ยิ่งไม่ได้มา –> ความเป็นส่วนตัว เวลาที่ควรจะเป็นของตัวเองแบบจริง ๆ จัง ๆ อะไรและทำไมจึงเป็นอย่างนั้น เพราะคนอื่น หรือเพราะตัวเราเอง แล้วจะปรับจะแก้ยังไงดี

ช่วง 2 – 3 เดือนหลังนี่ จะหงุดหงิดกับการขาดความเป็นส่วนตัว ขาดเวลาที่เป็นตัวของตัวเองอย่างมาก อะไรทำให้เราต้องตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ก็ไม่รู้ได้ จริง ๆ ไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โต แค่หงุดหงิดใจตลอดเวลา เป็นเพียงปัญหาเรื่องราวเล็ก ๆ แต่มันคือความกวนใจ ที่เราจะลงมือทำหรือปล่อยให้สมองได้คิดอะไรแทบไม่ได้เลย

แก้ปัญหาด้วยการใช้เวลาส่วนตัวทำงานส่วนรวม แน่นอนว่ามันกระทบถึงประสิทธิภาพอย่างมาก ใส่ input เข้าไปมากมาย แต่ในเวลาปกติ output แทบไม่ออกเลย outcome ไม่ต้องพูดถึง เราเสียเวลาแต่ละวันไปกับอะไรที่ไม่ก่อให้เกิดผลของงานมากไปหรือเปล่า

กับการใช้เวลาส่วนตัวมาเป็นตัวแก้ปัญหา ก็ยิ่งสะสมความเครียดไปทีละเล็กทีละน้อย เพราะเวลาส่วนตัวของชีวิตมนุษย์ทุกคนล้วนแต่มีภารกิจที่ต้องดำเนินไปทั้งสิ้น ก็กลายเป็นว่าเรื่องส่วนตัวถูกหมักหมมไปแทน

จะมีใครเข้าใจและจะรู้สึกยังไง ถ้าทั้งวันเรามีคนที่คอยพูดคุยกับเราอยู่แทบจะตลอดเวลา และเป็นคนที่เราปฏิเสธได้ยากซะด้วย มีเรื่องให้ต้องนั่งถกกันวนเวียนอยู่อย่างนั้น เดินหน้าถอยหลังอยู่กับเรื่องเดิม ๆ ไม่มีความคืบหน้า ไม่มีบทสรุป เหมือนหนังที่เล่นวนซ้ำย้ำไปมา จะขอออกจากฉากนั้นก็ไม่ได้ พยายามเสนอทางเลือก เพื่อจะเดินหน้าต่อให้ถึงจุดหมายในแต่ละเรื่องราว แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผล

อยากได้อะไร ไม่เคยปฏิเสธ ทำให้ได้ทุกอย่าง ขออย่างเดียว ขอพื้นที่เล็ก ๆ ให้ได้สร้างสรรค์ได้ผลิตเนื้องานจริง ๆ บ้าง แค่ลำพังเนื้องานที่หลายหน้ามากมายหลายด้าน ก็ประดังประเดเข้ามาให้ทำให้คิดไม่หวาดไม่ไหว แล้วยังจะไม่มีเวลาได้ทำอีก ถูกขโมยเวลาตลอด ๆ จนต้องเอาไปทำกลางคืนและวันหยุดตลอดจนเป็นกิจวัตรแบบนี้ก็ไม่น่าจะเวิร์คนะ

บางทีก็คิดหรือเป็นเพราะเราเอง ที่เรียกได้ตลอด จะเอาอะไรก็ตอบสนองตลอด ไม่เคยปฏิเสธ จะคุยอะไรก็นั่งคุยด้วยถกประเด็นด้วย ไม่ว่าจะเรื่องที่เป็นเรื่องหรือไม่เป็นเรื่อง ก็เคยคิดแต่ว่าอะไรที่เป็นจากปัจจัยภายนอก เราจะพยายามเคลียร์ให้จบไม่ให้ค้างคา แล้วค่อยมาทำในส่วนที่เป็นปัจจัยจากตัวเราเอง แต่กลับกลายเป็นว่าไม่จบไม่สิ้น ได้อันนี้เอาอันโน้น และไหนจะเพิ่มเรื่องที่ไม่ใช่เวลาต้องเพิ่มอีก แล้วในส่วนที่เราต้องทำก็ต้องเอาด้วยเช่นกัน อย่าว่าแต่นั่งทำนั่งผลิตสร้างสรรค์งานเลย ต่อให้เสกคาถาได้ ก็ไม่น่าจะมีเวลาได้ท่องมนต์จนจบ ขนาดนั้นเลยทีเดียว

อันที่จริงก็รู้ว่าบ่นไปก็ไม่มีประโยชน์ ต้องหาทางแก้จากตัวเราเอง เราเปลี่ยนใครไม่ได้เลย ก็ตั้งใจว่าจะเด็ดเดี่ยวไม่หวั่นไหว ไม่ตามใจ ไม่คล้อยตาม ตั้งเป้าเดินหน้าทำงานตามที่วางแผน แทรกได้ตามสมควร แต่เราจะไม่ยอมให้ตลอดเวลาอีกต่อไป หวังว่าจะทำได้ … เพราะระหว่างวันปกติ ก็จะมีเรื่องที่แทรกเข้ามา มาขัดจังหวะจากหลายด้านอยู่แล้ว ซึ่งอันนั้นเป็นเรื่องที่เราต้องบริหารจัดการ เราเข้าใจได้ แต่กับประเด็นจุกจิกใจที่เราต้องเจอแบบที่ว่านี้แทบจะตลอดเวลา ย้ำว่าแทบจะทุกเวลานาที คือความปวดหัวมากมายแหละ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *